วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าวกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

                  ตร.ขอศาลออกหมายจับ 4 ตัวการ ปล่อยข่าว ทุบหุ้น แล้ว


          อนุมัติออกหมายจับ 29 ต.ค. ตามความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โยนให้ดีเอสไอ และ ก.ล.ต.เอาผิดการได้ประโยชน์จากการทุบหุ้น ปั่นหุ้นรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แจ้งเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ว่า พนักงานสอบสวนคดีกลุ่มบุคคลปล่อยข่าวลืออันกระทบกระเทือนจิตใจคนไทย กระทั่งทำให้มีการแห่เทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจนราคาตกต่ำ เตรียมนำสำนวนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 4-5 คน ในวันที่ 29 ตุลาคม ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน สำหรับการเอาผิดเรื่องการได้ประโยชน์จากการทุบหุ้นปั่นหุ้น ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในส่วนของ ตร.จะดำเนินคดีในส่วนของผู้ที่ปล่อยข่าวลวงอันเป็นเท็จและไม่เป็นมงคล ขณะที่ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวกรณีนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เสนอให้ใช้กฎหมาย ปปง.ตรวจสอบความโยงใยเรื่องการปล่อยข่าวทุบหุ้นนั้น ยังไม่ได้รับการประสานข้อมูลจาก ก.ล.ต.และดีเอสไอ เพื่อให้เข้าร่วมตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงิน เรื่องนี้เชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเนื่องจากประเด็นค่อนข้างละเอียดอ่อน จึงจำเป็นต้องมีข้อมูลเพียงพอ จึงจะส่งเรื่องให้ ปปง.ร่วมขยายผลเพิ่มต่อไป รายงานข่าวแจ้งว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ มอบหมายให้สำนักคดีการเงินและการธนาคาร ตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจาก ก.ล.ต.ซึ่งต้องวิเคราะห์กลุ่มบุคคลต้องสงสัย รวมทั้งกราฟตารางการซื้อขายของ ก.ล.ต. และบันทึกการซื้อขายในช่วงวันที่ 14 ถึง 16 ตุลาคม ว่าเชื่อมโยงกับกระแสข่าวหรือไม่


สรุปข่าว
มีการออกหมายจับผู้ต้องหานคดีทุบหุ้น  ปั่นหุ้น  โดยมีกลุ่มบุคคล ปล่อยข่าวลือกระทบกระเทือนจิตใจคนไทย  กระทั่งทำให้มีการแห่เทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จนราคาหุ้นตกต่ำลงอย่างมาก  ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ระวังโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 100,000บาท โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
การแก้ไข
ในฐานะที่เราเป็นครู การแก้ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เพราะจะต้องผ่านต้นแบบและการปลูกฝังที่ถูกต้อง และต้นแบบที่สำคัญที่สุด คือ ครอบครัวและคุณครู  ครูควรจะให้การสั่งสอนที่ถูกต้องตั้งแต่เด็กยังเยาว์วัย เพื่อเป็นรากฐานในการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต และสิ่งที่สำคัญที่ควบคู่ไปกับคำสอนคือ แบบอย่างที่หน้าเชิดชู ดั่งคำที่กล่าวไว้ว่า ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน

ที่มา: http://www.matichon.co.th
วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552